สารคดี สาวสวยกับสัตว์ป่า

สาวสวยกับสัตว์ป่า

                                                                                    สลวย  (คุปตาภา)  โรจนสโรช

 

ครั้งหนึ่งมีพ่อค้าคนหนึ่งมีลูกสาวสามคน  สองคนพี่ไม่สวย  ขี้ริ้วขี้เหร่มาก  คนที่สามซึ่งเป็นคนสุดท้องสวย  น่ารัก  และเป็นคนดีอีกด้วย  พ่อให้ชื่อว่า  แก้วตาเพราะพ่อรักมาก

ต่อมาพ่อค้าค้าขายขาดทุนย่อยยับ  ต้องขายบ้านที่เคยอยู่  มาอยู่กระท่อมเล็ก ๆ ที่ชายทุ่ง  คนรับใช้ที่เคยมีก็หมดไป  มีแต่ลูกสาวคนสุดท้องที่รับทำงานทุกอย่างในบ้าน  ไม่เคยเกี่ยงให้พี่สาวสองคนที่ขี้เกียจทำงาน  แล้วก็ตื่นนอนสายทุกวันต้องมาช่วยทำงานบ้านเลย

วันหนึ่งพ่อค้าได้รับข่าวมาว่า  ถ้าหากไปในเมืองก็จะได้งานทำ  จึงเรียกลูก ๆ มาเล่าให้ฟังว่า  ลูกทั้งสามจะต้องอยู่บ้านกันตามลำพัง

“พ่อกลับมา  พ่อจะซื้อของมาฝาก  ลูก ๆ จะเอาอะไรดีล่ะ”  พ่อค้าถามลูกทุกคน

“เสื้อสวย ๆ สักชุดเถอะค่ะพ่อ”  ลูกสาวใหญ่ทั้งสองชิงตอบพ่อก่อน

“พ่อจะซื้ออย่างดีที่สุดและสวยที่สุดมาให้ลูก  พ่อสัญญา”  บิดาสัญญาลูกสาวสองคนแล้วหันมาถามลูกคนเล็กว่า  “แล้วแก้วตาของพ่อล่ะจะเอาอะไร”

แก้วตารู้ว่า  ถ้าสั่งให้พ่อซื้อของราคาแพงพ่อก็คงไม่มีเงินจะซื้อ  และเมื่อซื้อของมาให้ลูกไม่ได้  พ่อก็ย่อมจะต้องเสียใจมาก  แก้วตาจึงบอกพ่อว่า

“กุหลาบดอกเดียวเท่านั้นก็พอค่ะพ่อ  เอากุหลาบสวย ๆ ที่พ่อพอจะหามาได้ก็แล้วกัน”  แก้วตาคิดว่าเพียงกุหลาบดอกเดียวคงจะไม่มีราคาแพงมากนัก

พ่อค้าเดินทางตลอดวันจึงถึงเมือง  รีบทำงานในวันรุ่งขึ้น  พอเสร็จงานก็รีบเดินทางกลับบ้าน  แต่เพื่อให้เร็วยิ่งขึ้นจึงเดินทางตัดป่ามา  บังเอิญหลงทาง  ยิ่งเดินก็ยิ่งหลงทางหาทางออกไม่ได้ต้องวนเวียนอยู่ในป่าลึกเข้าไปทุกที

หลงทางอยู่หลายชั่วโมงก็เกิดพายุใหญ่ในป่า  ต้องปีนต้นไม้ขึ้นไปดูเพื่อหาแสงไฟ  พอเห็นแสงไฟไม่ไกลนักก็ดีใจ  จึงโดดขึ้นหลังม้า  ควบตรงไปยังบ้านที่ตนเห็นแสงไฟนั้น

บ้านนั้นด้านนอกใหญ่โตสวยงามมาก  พ่อค้าเคาะประตู  รออยู่พักใหญ่ไม่มีใครมาเปิดประตูก็เลยเปิดประตูเข้าไปเอง  ในบ้านสวยงามและสว่างจ้า  เมื่อเดินมาถึงห้องใหญ่ก็มีโต๊ะกลางห้อง  มีอาหารดี ๆ วางไว้พร้อม  เหมือนคอยเขาอยู่

ด้วยความหิวพ่อค้าก็เลยนั่งลงรับประทานจนอิ่ม  แล้วก็เกิดง่วงนอน  ก็เลยนอนอยู่ที่ตรงมุมห้องอย่างสบายจนม่อยหลับไป

ตอนเช้า  เมื่อพ่อค้าตื่นขึ้นมาก็เห็นมีเสื้อผ้าชุดใหม่มาวางอยู่ที่เก้าอี้  แทนชุดที่เขาถอดเอาไว้  เขาจึงสวมเสื้อชุดใหม่  แล้วที่โต๊ะอาหารก็มีอาหารเตรียมไว้ให้เขาอีก  เช่นเดียวกับเมื่อคืน  เขาก็เลยรับประทานอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ  นึกว่า  จะหาใครสักคนให้พบ  จึงออกมาเดินเล่นที่ในสวน

สวนดอกไม้นั้นงดงาม  ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง  กุหลาบกอหนึ่งมีดอกกำลังแย้มกลิ่นหอมมาก  จึงนึกถึงลูกสาวคนเล็กว่าอยากได้ดอกกุหลาบ  จึงก้มลงตัดดอกกุหลาบที่กำลังแย้มดอกหนึ่งกลัดติดอกเสื้อ  เพื่อจะไปฝากลูกสาว  เขาอยากจะขอบใจใครสักคนที่ให้ที่กินอิ่มนอนหลับแก่เขาเมื่อคืนนี้  แต่แล้วเขาก็พบคน ๆ หนึ่งหน้าตาหน้าเกลียดเหมือนสัตว์ร้ายในป่าที่เขาไม่เคยเห็น

“แกมันคนทรยศ”  เจ้าสัตว์ป่านั้นคำราม  “ข้าได้เลี้ยงเจ้าจนอิ่มหนำสำราญแล้ว  นอนสบายมาตลอดคืน  เจ้ากลับมาขโมยกุหลาบแสนสวยของข้าเสียอีก”  มันพูดต่อไปว่า  “การขโมยเป็นบาป  ข้าจะยกโทษให้แก่ผู้ขโมยของ ๆ ข้าไม่ได้  ข้าขอสั่งว่า  ถ้าหากเจ้าออกไปจากบ้านของข้าอีกหนึ่งชั่วโมงเจ้าจะต้องตาย”

พ่อค้าคุกเข่าลงวิงวอนด้วยความกลัว  “ข้าพเจ้ามิได้ตั้งใจจะทรยศต่อท่าน  ข้าพเจ้าเพียงแต่ต้องการเก็บดอกเดียวเท่านั้นเพื่อไปฝากลูกสาวคนเล็ก  ที่ข้าพเจ้าออกมาที่สวนก็เพื่อจะตามหาเจ้าของบ้าน  จะได้ขอบคุณท่าน  ถ้าหากข้าพเจ้าต้องตาย  ลูกสาวก็คงจะคอย  และเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่พ่อไม่กลับไปและไม่ได้ดอกกุหลาบ”

เขาอ้อนวอนอยู่พักหนึ่งจนคนหน้าสัตว์ดุร้ายนั้นใจอ่อน  ยอมให้เขากลับไปบ้านเพื่อพบลูกสาว  แต่เขาจะต้องสัญญาว่า  เขาจะต้องส่งสิ่งมีชีวิตที่เขาพบเป็นสิ่งแรกเมื่อเขากลับเข้าบ้านมาแทนตัว

พ่อค้าคิดว่า  สิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่เขาพบคงจะเป็นสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้  มันมักจะออกมากระดิกหางต้อนรับเขาเวลาเขากลับบ้านก่อนคนอื่น  ฉะนั้นการที่เขาจะให้สัญญากับคนหน้าสัตว์ป่านั้นก็คงจะไม่เป็นไร

พ่อค้าจึงตกลงรับคำแล้วก็รีบเดินทางกลับบ้าน

แต่เขาแทบจะเป็นลมตาย  เมื่อสิ่งที่มีชีวิตสิ่งแรกที่ออกมาต้อนรับเขาคือแก้วตา  เธอรีบวิ่งออกมารับเขาด้วยความดีใจ

“โอ้โฮ  กุหลาบดอกนี้สวยจังนะค่ะพ่อ”  เธอร้องแล้วก็ตรงเข้ากอดจูบบิดาด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“อนิจจา”  พ่อค้าคราง  “ลูกคงไม่รู้ดอกนะว่ากุหลาบดอกนี้มีค่ายิ่งเพียงใด”  เขาดึงลูกเข้ามากอด  แล้วจูงเธอเข้าไปในบ้าน  เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแก่ตนให้ลูกสาวฟัง

“พ่อจะกลับไปหามันแล้วยอมตาย”  เขาบอกลูกสาว  “ถ้าสิ้นชีวิตพ่อ  ลูก ๆ ก็คงจะต้องอยู่กันตามลำพังโดยไม่มีพ่อ  คงจะลำบากมากทีเดียว  แต่พ่อก็ต้องรักษาคำมั่นสัญญาที่พ่อให้ไว้แก่มัน”

“พ่อส่งลูกไปเถอะค่ะ”  แก้วตาวิงวอนพ่ออยู่อีกนานจนพ่ออ่อนใจต้องยอมแพ้  พาแก้วตาไปส่งยังบ้านใหญ่ราวกับวังบ้านนั้น  ตามสัญญา

เมื่อมาถึง  ก็มีอาหารรออยู่เช่นเคย  ทั้งคู่จึงนั่งรับประทานอาหารจนจวนจะอิ่ม  คนหน้าสัตว์ร้ายเจ้าของบ้านจึงปรากฏตัวออกมา  มันจ้องมองแก้วตาอย่างน่าเกลียดน่ากลัวจนเธอกลัวตัวสั่นต้องรีบขยับไปนั่งเบียดชิดบิดา

“น่าเกลียดน่ากลัวอะไรเช่นนี้”  แก้วตาคิด  “เขาฆ่าเราเสียเร็ว ๆ ก็จะดี”

แต่เจ้าคนหน้าสัตว์นั้นไม่ต้องการทำอันตรายแก่สาวสวยอย่างแก้วตา  มันจึงบอกให้พ่อค้าทิ้งเธอไว้  แล้วรับรองว่าเธอจะปลอดภัย

พ่อค้าต้องจำยอมเดินทางกลับบ้านด้วยความเศร้าใจ

วันนั้นทั้งวัน  ชายหน้าตาเหมือนสัตว์ร้ายเจ้าของบ้านมิได้เข้ามาใกล้แก้วตาอีกเลย

พอถึงเวลาค่ำ  เขาจึงพาเธอมาที่ห้องนอนห้องหนึ่ง  มีเครื่องใช้พร้อม  ที่หน้าห้องมีชื่อบอกว่าแก้วตาเป็นเจ้าของห้อง

คืนนั้นแก้วตาฝันว่ามีนางฟ้ามาบอกเธอว่า  “แก้วตาไม่ต้องกลัว  อยู่ที่นี่เธอจะปลอดภัย”

วันรุ่งขึ้น  แก้วตาตื่นแต่เช้าแล้วออกไปเดินเล่นในสวน  พอเธอกลับมาก็พบชายหน้าสัตว์คนนั้นนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร

“หน้าตาของฉันน่าเกลียดไหม”  เขาถาม

“ค่ะ”  แก้วตาตอบสั้น ๆ

เมื่อเธอตอบอย่างนั้น  หน้าของเขาสลดลง  แล้วก็รีบเดินหายไปทันที

วันรุ่งขึ้น  เขาก็มารอแก้วตาที่โต๊ะอาหารอีก  ถามเธอว่า

“คุณจะแต่งงานกับฉันได้ไหม”

แม้แก้วตาจะสงสารเขา  แต่เธอก็บอกว่า  “ไม่  …  ไม่ค่ะ”  คำตอบของเธอทำให้เขาซบเซาไปมาก

วันหนึ่งเขาบอกเธอว่า  บิดาของเธอป่วยหนัก  แก้วตาจึงเกิดความห่วงใยบิดาอยากจะขออนุญาตกลับไปหาพ่อ

“ถ้าหากเธอหนีฉันไป  ฉันก็คงจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้”  เขาพูดเสียงออดอ่อย  “แต่แทนที่จะเห็นเธอไม่สบายใจ  ฉันจะยอมทนทุกข์ทุกอย่างเสียเอง  เอาเถอะเธอจะกลับไปก็ได้  แต่ขอได้โปรดสัญญาว่าจะกลับมาอีกภายในหนึ่งอาทิตย์”

การที่แก้วตาจากบ้านใหญ่ราวกับวังหลังนั้นมา  เธอรู้สึกเศร้าใจเหมือนกัน  แต่ก็ดีใจที่จะได้กลับบ้านเพื่อพยาบาลพ่อ

เมื่อมาถึงบ้าน  พ่อก็ดีใจที่เธอกลับมา  ไม่ช้าอาการป่วยของพ่อก็ดีขึ้น  จนกระทั่งแก้วตาลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แก่ชายหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวนั้น

อาทิตย์หนึ่งผ่านไป  อาทิตย์ที่สองก็ผ่านไป  อาทิตย์ที่สามก็มาถึง  คืนหนึ่งแก้วตาฝันว่าชายหน้าตาน่าเกลียดคนนั้นตายเสียแล้ว  แก้วตาเสียใจร้องไห้จนตกใจตื่น  นึกถึงเขาได้  จึงรีบขึ้นม้าควบกลับมาที่บ้านหลังนั้นทันที

เมื่อไปถึงบ้านนั้น  แก้วตาวิ่งเข้าไปในสวน  พบชายหน้าสัตว์ป่าและใจดีคนนั้น  นอนสิ้นสติอยู่ใกล้อ่างน้ำ  จึงรีบวักน้ำลูบหน้าเขา  พอเขาลืมตาขึ้นเห็นแก้วตาเขาก็ยิ้มอย่างอ่อนระโหยว่า

“ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าหากไม่มีแก้วตา  จึงอดอาหารเพื่อจะตายไปเสียให้สิ้นเรื่อง”

“อย่าค่ะ  ท่านต้องไม่ตาย  เพราะฉันจะแต่งงานกับท่าน”  เธอร้อง  “ฉันคิดแล้วว่า  คนที่มีใจดี  มีความกรุณาปราณี  มีความสุภาพ  ดีกว่าคนที่มีรูปร่างหน้าตาสวยเป็นไหน ๆ ฉันรักท่าน  ด้วยคุณงามความดีของท่าน  รักท่านจริง ๆ ค่ะ”

เมื่อแก้วตาพูด  หน้าตาของชายหนุ่มที่เคยน่าเกลียดน่ากลัวก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป  กลายเป็นหนุ่มรูปงาม  เขากุมมือแก้วตาไว้  แล้วบอกเธอว่า  เขาถูกสาปให้มีหน้าตาน่าเกลียดจนกว่าจะมีผู้หญิงงามซึ่งงามพร้อมทั้งรูปและใจ  สัญญาว่าจะแต่งงานกับเขาด้วยความรักอย่างแท้จริง

พ่อค้าได้ทราบข่าวนี้ก็ดีใจ  แต่พี่ ๆ สองคนอิจฉาน้องสาวที่ได้แต่งงานกับเศรษฐีและรูปหล่อ  หาเรื่องน้องสาวต่าง ๆ นานา  เลยถูกสาปให้เป็นตุ๊กตาหินเฝ้าประตูบ้านของน้องสาว  ถ้าหากตุ๊กตาหินคู่นี้ยังมีความคิดเหมือนคนคงจะคิดเสียใจว่าตนไม่ควรจะอิจฉาริษยาและคิดร้ายต่อน้องสาวผู้แสนดีนั้นเลย